พระครูสุภกิจจาทร (ทอย สุภโร)
อดีตเจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติรูปที่ ๙
ประวัติพระครูสุภกิจจาทร
ชาติภูมิ
นามเดิมทอย นามสกุล นพพันธ์ ถือกำเนิดเมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๖ โยมบิดาชื่อ นายเพ็ชร โยมมารดาชื่อ นางเอียง นพพันธ์ ณ บ้านสะเดาใหญ่ หมู่ที่ ๖ ตำบลสะเดาใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ มีพี่น้อง ๔ คน ดังนี้คือ
๑. นายสมน นพพันธ์ (ถึงแก่กรรมแล้ว)
๒. พระครูสุภกิจจาทร ผู้ที่ถึงแก่มรณภาพ
๓. นายทูน นพพันธ์ (ถึงแก่กรรมแล้ว)
๔. นายพวง นพพันธ์ (ถึงแก่กรรมแล้ว)
การศึกษาบรรพชา-อุปสมบท
พระคุณท่านได้ศึกษาระดับประถมศึกษา ณ ภูมิลำเนาเดิม เมื่ออายุอันควรได้ลาโยมพ่อโยมแม่เข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์บรรพชาอุปสมบท ขณะอายุได้ ๕๓ ปี ณ พัทธสีมาวัดศิริวราวาส อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๐๙ โดยมีพระครูกันทรลักษ์บรรหาร เป็นอุปัชฌาย์ พระผิว อรุโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระฉลาดเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "สุภโร" จำพรรษา ณ วัดสำโรงเกียรติ
งานปกครอง
เมื่อดำรงค์ตนในสมณเพศแล้ว พระคุณท่าน ชอบเดินทางธุดงค์ในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและประเทศกัมพูชา จาริกไปตามป่าเขาลำเนาไพร โดยเฉพาะเทือกพนมดงรัก จึงมาจำพรรษาเป็นการถาวร ณ วัดสำโรงเกียรติ จึงได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติ ตั้งแต่วันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๖ ปกครองพระภิกษุสามเณรอบรมสั่งสอนให้ยึดมั่นในหลักธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระภิกษุสามเณรอยู่จำพรรษาแต่ละพรรษากว่า ๒๐ รูป
ด้านสาธารณูปการ
ในระหว่างปี พ.ศ.๒๕๑๖ - ๒๕๕๐ พระคุณท่านได้นำพระภิกษุสงฆ์สามเณร ทายกทายิกา พุทธศาสนิกชน ก่อสร้างอาคารเสนาสนะ ถาวรวัตถุไว้ในบวรพระพุทธศาสนา มูลค่ากว่า ๑๐ ล้านบาท ดังที่เรามองเห็นในบริเวณวัดสำโรงเกียรติ
กาศึกษา
พ.ศ.๒๕๑๖ ได้ตั้งสำนักศาสนศึกษาปริยัติธรรม ณ วัดสำโรงเกียรติ
พ.ศ.๒๕๔๕ ตั้งศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัดสำโรงเกียรติ ใช้งบประมาณก่อสร้าง ๓๔๕,๖๒๐ บาท (สามแสนสี่หมื่นห้าพันหกร้อยยี่สิบบาท)
พ.ศ.๒๕๔๖ ตั้งศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ประจำวัดสำโรงเกียรติ สมณศักดิ์
ผลแห่งการอุทิศตนเพื่อการพระศาสนา ด้วยความวิริยอุตสาหะ ผู้บังคับบัญชาได้เล็งเห็นความสำคัญ จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานสมณศักดิ์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ในราชทินนนามที่ "พระครูสุภกิจจาทร"
ความเชี่ยวชาญพิเศษ
สามารถอ่าน เขียนภาษาขอม-เขมรได้ เทศน์อ่านคัมภีร์ภาษาเขมรได้
วาระสุดท้ายแห่งชีวิต
พระคุณท่านดำรงตนในสมณเพศกว่า ๔๑ พรรษา ได้พัฒนาด้านบุคคลคืออบรมสั่งสอนศิษยานุศิษย์ อุบาสกอุบาสิกา กุลบุตรกุลธิดา ให้เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี น้อมนำเอาหลักธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเผยแผ่ แต่ทุกอย่างก็เดินสู่กฎแห่งไตรลักษณ์ เมื่อมีการอาพาธ ศิษยานุศิษย์ ทายกทายิก นำไปรักษา ณ โรงพยาบาลขุนหาญ แต่พระคุณท่านสูงอายุ มีความผูกพันกับวัดวาอารามและประสงค์จะละสังขาร ณ วัดสำโรงเกียรติ จึงให้ศิษยานุศิษย์นำกลับวัด พระคุณท่านได้นละสังขารด้วยอาการอันสงบเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลา ๐๘.๐๑ น. นำความเศร้าโศกเสียใจมาสู่ศิษยานุศิษย์ ทายกทายิกา ญาติพี่น้อง หลาน ๆ เป็นอย่างยิ่งรวมสิริอายุได้ ๙๔ ปี ๗ เดือน ๒๕ วัน พรรษา ๔๑
พระอธิการอุทัย มหาปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติ รูปปัจจุบัน
ชาติภูมิ พระอธิการอุทัย
ฉายา มหาปุญโญ นามสกุล ภิญโญ
อายุ ๔๓ ปี พรรษา ๒๓
วัดสำโรงเกียรติ ตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ รหัสไปรษณีย์ ๓๓๑๕๐ โทรศัพท์ ๐๘-๗๑๕๔-๗๘๔๔ บรรพชาอุปสมบท
การศึกษา นักธรรมชั้นเอก ศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (ศน.ม) ม.มหามกุฏราชวิทยาลัย
ตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติ ๒๕๕๒ - ปัจจุบัน
|